มันลำบากกะต่าวคืนเมือบ้านเฮาเด้อ
คำสั่งของผู้เป็นแม่ทางโทรศัพท์ ที่ห่วงลูกหลานที่ไปทำงานในเมืองหลวง สถานการณ์การระบาดของบักโควิด-19 (หรือ อีโควิด มันโตผู้หรือโตแม่ ไผฮู้กะบอกมาแหน่เด้อ) ตอนต้นเดือนพฤษภาคมที่แล้ว สถานการณ์ตอนนั้นยังบ่ลำบากปานนี้ พอมีเวียกงานเฮ็ดอยู่ แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาการระบาดรุนแรง จนถึงขั้นปิดแคมป์คนงานก่อสร้างทั่ว กทม. รวมทั้งปิดโรงงานอุตสาหกรรมอีกหลายแห่ง หรือกักตัวในโรงงานจำนวนมากทั้งในสมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม ทำให้บรรดาแรงงานบางส่วนต้องอพยพกลับบ้านเฮา
พอเดือนสิงหาคม สถานการณ์ของการระบาดรุนแรงถึงขนาดที่เตียงในโรงพยาบาล เพื่อการรักษาเต็มทุกแห่ง ทั้งในโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย จนถึงขั้นต้องมีการกักตัวในบ้านตัวเอง หรือกักตัวในสถานที่ที่ชุมชนกำหนดขึ้น มีการล้มตายเพราะการรักษาพยาบาลไม่ทัน โรคที่กลายพันธุ์ครั้งนี้รุนแรงรวดเร็วมากจริงๆ กว่าจะรู้ตัวว่า เจ็บป่วยติดโควิด ก็เมื่อมีอาการหนักจนกระทั่งไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ นอกจากจะตกงานแล้ว คราวนี้กลัวตาย กลัวไม่ได้รับการรักษาพยาบาล จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งจังหวัดต่างๆ ได้ร่วมมือกันนำเอาคนในภูมิลำเนาของตนกลับมารักษาด้วย
อ่านเพิ่มเติม