มิถุนายน 16, 2020 | 3,260 views

ลืมกันหรือยังนะ ไม่ได้อัพเดทนานล่ะ

โควิดซา เลยมาบอกข่าว

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังน้ำท่วมใหญ่แถวกระท่อมน้อยทิดหมู (กระท่อมน้อยฮิมมูล) พอน้ำลดก็แล้งทันทีเลยพี่น้องเอย ที่เคยๆ ท่วมกะจักไหลไปไสเบิดบ่เหลือขังในนา พอข้ามปีใหม่มากะคาแต่ไปทำมาหากินตามประสา ไปส่อยพี่น้องทางบ้านฟื้นฟูเฮือนชาน ซ่อมแซมบ้านที่ผุพังเพราะน้ำคราวนั้น ที่ลำบากสุดๆ แหม่นล้างขี้ตมขี้เลนออกจากเฮือนนี่หละ ยากกว่าแนวอื่นหลายเด้อ

ลำบากฮอดหมาพี่น้อง ต้องอาศัยเฮือเป็นบ่อนอยู่อาศัย ไป-มา ลำบากอยู่เป็นเดือนกว่าสิเป็นปกติ แต่กะบ่นานท่อใด๋กะผจญกับภัยร้ายตัวใหม่อีก

หลังฉลองปีใหม่ได้บ่นาน ข่าวร้ายก็มาเลย โรคระบาดร้าย “โควิด-19” ลามจากเมืองจีนมาสู่เมืองไทย ทุกสิ่งอย่างที่เคยเฮ็ดเคยสร้างก็หยุดไปเบิด การทำมาหากินฝืดเคือง คนที่เคยมีงานกะตกงานแบบบ่ทันตั้งโต ทิดหมูกะคือกันได้อาศัยหากินเมาะๆ แมะๆ แถวบ้านนี่แหละ พอได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เดือนมิถุนายนแล้ว ฝนก็ยังตกนิดๆ หน่อยๆ จนหลายคนไปหว่านข้าวในนา ก็ได้แต่ภาวนาว่า “เยี่ยวมาเถอะเทวดา นางฟ้าเอย ข้าวเปลือกข้าวปลูกที่หว่านลงไปตอนนี้สิแห้งตาย มดมาคาบไปกินเบิดแล้ว” บ่มีน้ำในนาเลย เห็นหลายๆ คนในหมู่บ้านพากันขุดสระน้ำกลางท่งนา สร้างแหล่งเก็บน้ำ ตามแบบ “โคกหนองนาโมเดล” พากันน้อมนำเอา พระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้ ตามแบบของคนอื่นๆ ที่ประสบผลสำเร็จในปีที่ผ่านมา หว้งว่า ปีนี้สิมีน้ำเพียงพอไหลเข้าสระน้ำ หนองในนา ที่ขุดเอาไว้

เรื่องดีๆ แบบนี้ ทิดหมูเห็นด้วยครับ สิพากันมาคอยแต่ฟ้าแต่ฝนบ่ได้แล้ว สมัยก่อนฝนตกต้องตามฤดูกาลเพราะ มีปา มีความชื่นเพียงพอเป็นตัวล่อฟ้าฝน สมัยต่อมา เฮาพากันบุกม้างป่าดง เฮ็ดไฮ่ เฮ็ดนา เพื่อปลูกพืชผลต่างๆ เพื่อขาย แสวงหาพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ จนบ่เหลือป่า บ่เหลือฮอดดอนปู่ตา ที่เคยอุดมสมบูรณ์ของหมู่บ้าน ป่าที่เคยเป็นแหล่งอาหาร ทั้งหน่อไม้ เห็ดนานาชนิด พืชผักอื่นๆ รวมทั้งไข่มดแดงอันสุดแซบ (อาหารชั้นสูง) ที่หาได้จากป่าแห่งนี้

มื้อนี้ นอกจากสิขุดหนองเก็บน้ำแล้ว ดินที่ได้ก็เอามาถมเป็นโคกสำหรับสร้างที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์บก เช่น เป็ด ไก่ หมู วัว ควาย และปลูกป่าให้เป็นดอนเจ้าปู่โลด มีทั้งไม้ใหญ่ ไม้เศรษฐกิจ ไม้ผล พืชคลุมดิน เอิ้นกันว่า “ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ความหมายคือ

“…ป่าไม้ที่จะปลูกนั้น สมควรที่จะปลูกแบบป่าใช้ไม้หนึ่ง ป่าสำหรับใช้ผลหนึ่ง ป่าสำหรับใช้เป็นฟืนอย่างหนึ่ง อันนี้แยกออกไปเป็นกว้างๆ ใหญ่ๆ การที่จะปลูกต้นไม้สำหรับได้ประโยชน์ดังนี้ ในคำวิเคราะห์ของกรมป่าไม้รู้สึกจะไม่ใช่ป่าไม้ แต่ในความหมายของการช่วยเหลือเพื่อต้นน้ำลำธารนั้น ป่าไม้เช่นนี้จะเป็นสวนผลไม้ก็ตามหรือเป็นสวนไม้ฟืนก็ตาม นั่นแหละเป็นป่าไม้ที่ถูกต้อง เพราะทำหน้าที่เป็นป่า คือ เป็นต้นไม้ และทำหน้าที่เป็นทรัพยากรในด้านสำหรับให้ผลที่มาเป็นประโยชน์แก่ประชาชนได้…”

“…การปลูกป่า 3 อย่าง แต่ให้ประโยชน์ 4 อย่าง ซึ่งได้ ไม้ผล ไม้สร้างบ้าน และไม้ฟืนนั้น สามารถให้ประโยชน์ได้ถึง 4 อย่าง คือ นอกจากประโยชน์ในตัวเองตามชื่อแล้ว ยังสามารถให้ประโยชน์อันที่ 4 ซึ่งเป็นข้อสำคัญ คือ สามารถช่วยอนุรักษ์ดินและต้นน้ำลำธารด้วย...”

หลักการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เป็นพระราชดำริการพัฒนาป่าไม้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการผสมผสานการอนุรักษ์ ดิน น้ำ และการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ควบคู่กับความต้องการด้านเศรษฐกิจ

#ปลูกป่า

1. ป่าไม้ใช้สอย คือ ไม้โตเร็ว เช่น สะเดา ไม้ไผ่
2. ป่าไม้เศรษฐกิจ คือ เช่น ไม้สัก ประดู่ พะยูง
3. ป่าไม้กินได้ คือ ไม้ผล เช่น กล้วย มะม่วง และผักกินใบต่าง ๆ

#ได้ประโยชน์

1. ไม้ใช้สอย สำหรับใช้ในครัวเรือน เช่น นำมาสร้างบ้าน ทำเล้าเป็ด เล้าไก่ ด้ามจอบเสียม ทำหัตถกรรม หรือกระทั่งใช้เป็นเชื้อเพลิง (ฟืน) ในการหุงต้ม
2. เป็นแหล่งรายได้ของครัวเรือน เป็นพืชที่สามารถนำมาจำหน่ายได้ ซึ่งควรปลูกพืชหลากหลายชนิดเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องราคาตกต่ำและไม่แน่นอน
3. นำมาเป็นอาหาร นำมาเป็นอาหาร ทั้งพืชกินใบ กินผล กินหัว และเป็นยาสมุนไพร
4. ประโยชน์ในการช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ การปลูกพืชที่หลากหลายอย่างเป็นระบบ จะช่วยสร้างสมดุลของระบบนิเวศ ช่วยปกป้องผิวดินให้ชุ่มชื้น ดูดซับน้ำฝน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *